บ้านขายไม่ออก 90 วัน? แก้ 10 จุดก่อนลดราคา (เช็กลิสต์ขายบ้านให้กลับมามีคนทัก)

บ้านประกาศขายมา 90 วันยังเงียบ อย่าเพิ่งลดราคา! เช็กฟันเนลประกาศขาย + แก้ 10 จุดสำคัญ ตั้งราคาให้ตรงตลาด ปรับรูป/คำบรรยาย ทำ Home Staging เอกสาร-ค่าใช้จ่ายให้ชัด เพื่อเร่งปิดการขาย

2 นาทีอ่าน
0 ครั้งที่ดู
บ้านขายไม่ออก 90 วัน? แก้ 10 จุดก่อนลดราคา (เช็กลิสต์ขายบ้านให้กลับมามีคนทัก)

บ้านขายไม่ออก 90 วัน? แก้ 10 จุดก่อนลดราคา

เมื่อประกาศขายบ้านมา 90 วัน แล้วยังเงียบ (ไม่มีคนทัก/นัดดูน้อย/มีนัดดูแต่ไม่ยื่นข้อเสนอ) เจ้าของบ้านจำนวนมากมักเลือก “ลดราคา” เป็นทางออกแรก อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติการขายให้เกิดผลมักเริ่มจากการแก้ “จุดตัน” ในกระบวนการขายก่อน เช่น ราคาไม่สอดคล้องกับตลาด รูปถ่ายไม่ดึงดูด บ้านไม่พร้อมโชว์ หรือข้อมูลค่าใช้จ่าย/เอกสารไม่ชัดเจน

แนวคิดสำคัญ: การลดราคาเป็น “มาตรการลำดับท้าย” หลังจากปรับแก้ปัจจัยหลักและ “รีลอนช์ประกาศ” อย่างเป็นระบบแล้ว


ตรวจอาการก่อน: คอขวดอยู่ตรงไหนใน “ฟันเนลการขาย”

ให้ประเมินจากตัวชี้วัด 3 ส่วน (เพื่อแก้ให้ตรงจุด)

  1. ยอดเข้าชม (Views) ต่ำผิดปกติ → ปัญหาช่องทาง, หัวข้อ, รูปหน้าปก

  2. ยอดเข้าชมสูง แต่ข้อความทัก (Inquiries) ต่ำ → ปัญหาราคา, รูปภาพ, รายละเอียดประกาศ

  3. มีคนทักมาก แต่ “นัดดูน้อย/ดูแล้วเงียบ” → ปัญหาสภาพบ้าน, กลิ่น/ความสะอาด, ความพร้อมวันนัด, ความชัดเจนเรื่องค่าใช้จ่ายและเอกสาร

จากนั้นจึงไล่ปรับตาม “10 จุด” ด้านล่าง


10 จุดที่ต้องแก้ก่อนลดราคา (เช็กลิสต์ทำตามได้)

1) ปรับกรอบราคาโดยอิงข้อมูลตลาดด้วย “CMA/Comparable” (หลีกเลี่ยงการตั้งราคาจากความรู้สึก)

CMA (Comparative Market Analysis) คือการวิเคราะห์ตลาดเปรียบเทียบ โดยเทียบทรัพย์กับทรัพย์ที่ “คล้ายกันในพื้นที่เดียวกัน” เพื่อประเมินมูลค่าตลาดที่เหมาะสม โดยพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ทำเล ขนาด สภาพ และทรัพย์ที่เพิ่งขายหรือกำลังประกาศขายอยู่


ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ: ควรมีทรัพย์เทียบอย่างน้อย 3–5 รายการ และกำหนดราคาภายใต้ “กรอบตลาด” เพื่อเพิ่มโอกาสเกิดการทักและการนัดชม


2) ถ่ายภาพใหม่ทั้งชุด เพราะ “ภาพถ่าย” คือจุดตัดสินใจแรกของผู้ซื้อ

ภาพไม่สว่าง ไม่คม หรือไม่สะท้อนจุดเด่นของบ้าน มักทำให้ผู้ซื้อเลื่อนผ่านทันที แนะนำให้ถ่ายภาพใหม่โดยยึดหลักความสมดุลของภาพ มุมกว้างที่เห็นพื้นที่จริง และจัดองค์ประกอบให้เรียบร้อยก่อนถ่าย

แนวทางถ่ายภาพให้มีคุณภาพ (สรุปใช้งานได้ทันที)

  • ถ่ายช่วงกลางวัน ใช้แสงธรรมชาติ เปิดม่านให้เต็มที่

  • ถ่ายมุมห้องเพื่อให้เห็นสัดส่วนพื้นที่

  • เรียงลำดับภาพให้เหมือน “พาผู้ชมเดินชมบ้าน” ตั้งแต่หน้าบ้าน → ห้องนั่งเล่น → ห้องนอน → ห้องน้ำ


3) เขียนประกาศใหม่ให้ “ตอบคำถามผู้ซื้อ” และลดการถามซ้ำ

ประกาศที่ดีควรให้ข้อมูลครบพอสำหรับการตัดสินใจ “ทักและนัดชม” ได้แก่

  • จุดเด่น 3 บรรทัดแรก (ทำเล/สภาพ/ของแถม/จุดขาย)

  • รายละเอียดทรัพย์ (พื้นที่ใช้สอย/จำนวนห้อง/ที่จอด/ทิศ/ปีสร้าง)

  • เงื่อนไขค่าใช้จ่ายวันโอน (ใครรับผิดชอบอะไร)

  • ช่องทางและช่วงเวลานัดชมที่ชัดเจน


4) ทำ Home Staging แบบคุมงบ เพื่อเพิ่มความประทับใจแรก

Home Staging คือการจัดและตกแต่งบ้าน “เชิงนำเสนอ” ไม่จำเป็นต้องรีโนเวทใหญ่ เป้าหมายคือทำให้บ้านดูโปร่ง สว่าง และช่วยให้ผู้ซื้อจินตนาการการอยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น

รายการที่ทำแล้วเห็นผลบ่อย

  • เคลียร์ของส่วนตัว/ทำความสะอาดเชิงลึก

  • ซ่อมจุดเล็ก ๆ เช่น ก๊อกน้ำรั่ว มือจับหลวม รอยแตกร้าวเล็กน้อย

  • ปรับโทนสีให้เป็นกลางเพื่อเพิ่มความสว่างและความรู้สึก “พร้อมอยู่”


5) แก้ “จุดลดความเชื่อมั่น” ที่ทำให้ดูบ้านแล้วไม่กล้ายื่นข้อเสนอ

ตัวอย่างจุดที่ทำให้ผู้ซื้อถอย:

  • รอยรั่วซึม/เชื้อรา/กลิ่นอับ

  • ระบบไฟ/ระบบน้ำดูไม่มั่นใจ

  • ภาพรวมบ้านดูไม่ได้รับการดูแล

ข้อเสนอแนะ: ทำ “รายการซ่อม” แบบสั้น + ภาพก่อน–หลัง แนบในอัลบั้มประกาศ จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถืออย่างมาก


6) จัดเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อลดความเสี่ยงดีลล่ม

ควรเตรียม “แพ็กเอกสาร” ตั้งแต่ก่อนเริ่มนัดชมจริงจัง เช่น

  • สถานะโฉนด/ภาระผูกพัน (กรณีติดจำนองควรมีแนวทางการปิดยอด)

  • ค่าส่วนกลางค้าง (ถ้ามี)

  • แปลน/ใบต่อเติม/เอกสารเกี่ยวกับงานปรับปรุง (ถ้ามี)


7) สรุป “ค่าใช้จ่ายวันโอน” ให้ชัด ลดความกังวลเรื่องค่าแฝง

ผู้ซื้อจำนวนมากเงียบ เพราะไม่มั่นใจว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมในวันโอน โดยค่าใช้จ่ายที่พบบ่อย เช่น

  • ค่าธรรมเนียมโอน (โดยทั่วไป 2% ของราคาประเมิน)

  • อากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (เข้าเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง)

หากต้องการคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียมเบื้องต้น กรมที่ดินมีระบบให้บริการออนไลน์


8) รีลอนช์ประกาศใน “ช่องทางที่ผู้ซื้ออยู่จริง” พร้อมแยกคอนเทนต์ 2 เวอร์ชัน

  • เวอร์ชันลงเว็บประกาศ: รายละเอียดแน่น ครบถ้วน

  • เวอร์ชันโซเชียล: Hook สั้น + รูปใหม่ + CTA นัดชม (ชัดและเร็ว)


9) ทำระบบนัดชมให้ “ง่าย รวดเร็ว และเป็นมืออาชีพ”

ปัญหาที่ทำให้หลุดนัด/หลุดดีลง่าย:

  • ตอบช้า นัดยาก ไม่มีช่วงเวลาชัดเจน

แนวทางแนะนำ

  • กำหนดช่วงเวลานัดชมที่ชัดเจน (เช่น ส.-อา. 10:00–16:00)

  • ส่งโลเคชัน/จุดนัด/ข้อมูลที่จอดรถล่วงหน้า

  • เตรียมบ้านให้พร้อมก่อนพาชม: เปิดไฟ เปิดม่าน ให้สว่างและโปร่งตามหลัก staging


10) เพิ่มแรงจูงใจ “แทนการลดราคา” (ทางเลือกที่มักได้ผล)

ก่อนลดราคา แนะนำให้พิจารณา:

  • ช่วยค่าใช้จ่ายบางส่วนในวันโอน (ยึดตามข้อ 7)

  • แถมแอร์/ผ้าม่าน/เครื่องทำน้ำอุ่น

  • เคลียร์ค่าส่วนกลางค้างก่อนโอน

  • ยืดหยุ่นวันโอนหรือเงื่อนไขเพื่อรองรับผู้ซื้อที่ขอกู้


เมื่อใดจึงควร “ลดราคา”

ควรพิจารณาลดราคาเมื่อ

  • ปรับข้อ 1–10 แล้ว และ “รีลอนช์ประกาศ” ด้วยรูป/รายละเอียดใหม่

  • แต่ตัวชี้วัดยังไม่ดี (วิวต่ำผิดปกติ หรือวิวสูงแต่ทักน้อยมาก หรือมีนัดดูแต่ไม่เกิดข้อเสนอ)

จากนั้นให้กลับไปทบทวน “กรอบราคา” ด้วย CMA อีกครั้ง เพราะราคาที่ไม่สอดคล้องตลาดเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้บ้านขายไม่ออก


สรุป

กรณี บ้านขายไม่ออก 90 วัน มักไม่ได้เกิดจาก “ทำเล” เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากชุดปัจจัยที่แก้ไขได้ เช่น ราคาไม่ตรงตลาด รูป/ประกาศไม่ดึงดูด บ้านไม่พร้อมโชว์ และข้อมูลเอกสาร–ค่าใช้จ่ายวันโอนไม่ชัดเจน หากแก้ครบทั้ง 10 จุดก่อนลดราคา จะเพิ่มโอกาส “ขายได้เร็วขึ้น” พร้อมรักษาราคาได้มากขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผล

อ้างอิง:

บทความที่เกี่ยวข้อง

บ้านขายไม่ออก 90 วัน? แก้ 10 จุดก่อนลดราคา (เช็กลิสต์ขายบ้านให้กลับมามีคนทัก)

บ้านขายไม่ออก 90 วัน? แก้ 10 จุดก่อนลดราคา (เช็กลิสต์ขายบ้านให้กลับมามีคนทัก)

บ้านประกาศขายมา 90 วันยังเงียบ อย่าเพิ่งลดราคา! เช็กฟันเนลประกาศขาย + แก้ 10 จุดสำคัญ ตั้งราคาให้ตรงตลาด ปรับรูป/คำบรรยาย ทำ Home Staging เอกสาร-ค่าใช้จ่ายให้ชัด เพื่อเร่งปิดการขาย

1
2 นาทีในการอ่าน
ต่อรองราคาบ้านยังไงให้ได้จริง: เทคนิคแบบมีข้อมูล (คู่มือซื้อบ้านมือสอง/บ้านใหม่)

ต่อรองราคาบ้านยังไงให้ได้จริง: เทคนิคแบบมีข้อมูล (คู่มือซื้อบ้านมือสอง/บ้านใหม่)

อยากต่อรองราคาบ้านให้ได้จริงต้องมี “ข้อมูล” ไม่ใช่ต่อมั่ว บทความนี้สรุปวิธีหา Comparable (CMA), เช็กข้อบกพร่อง, คำนวณค่าใช้จ่ายวันโอน และสคริปต์ต่อรองที่ใช้ได้ผล

26 ธ.ค. 2568
4
2 นาทีในการอ่าน
ซื้อคอนโดมือหนึ่ง/มือสอง ต้องเช็คอะไรบ้าง? สรุปครบแบบเข้าใจง่าย

ซื้อคอนโดมือหนึ่ง/มือสอง ต้องเช็คอะไรบ้าง? สรุปครบแบบเข้าใจง่าย

ซื้อคอนโดไม่ให้พลาด! รวมเช็คลิสต์ละเอียดตั้งแต่ทำเล นิติบุคคล สภาพห้อง เอกสาร ภาระหนี้ ค่าโอน–ก่อนเซ็นสัญญาและวันโอนครบในบทความเดียว

23 ธ.ค. 2568
35
2 นาทีในการอ่าน