ต่อรองราคาบ้านยังไงให้ได้จริง
การต่อรองราคาบ้าน “ให้ได้จริง” ไม่ได้ชนะด้วยเสียงดังหรือการกดราคา แต่ชนะด้วย เหตุผล + หลักฐาน + แผนตัวเลข เพราะผู้ขาย (หรือธนาคาร/เจ้าของโครงการ) จะยอมปรับเมื่อเห็นว่า “ราคาที่คุณเสนอ” มีที่มาชัด และทำให้ดีลเดินต่อได้เร็ว
บทความนี้จะพาคุณทำ 3 อย่างให้ครบก่อนยื่นราคา:
รู้ “ราคาตลาดจริง” จากทรัพย์เทียบ (Comparable / CMA)
รู้ “ต้นทุนที่ต้องจ่ายจริง” (ซ่อม + โอน + ภาษี + ค่าแฝง)
ยื่นข้อเสนอแบบมืออาชีพ มีสคริปต์และรูปแบบต่อรองให้ใช้ทันที
หลักคิดก่อนต่อรอง: อย่าถามว่า “ลดได้ไหม”
ให้เปลี่ยนเป็นคำถามที่ทรงพลังกว่า:
“ถ้าปิดภายใน X วัน ราคา ที่เหมาะสมตามข้อมูล ควรอยู่ที่เท่าไหร่?”
“ถ้าผมรับสภาพ/รับโอนเร็ว ขอปรับตาม รายการซ่อม ได้ไหม?”
ผู้ขายมักไม่ชอบคำว่า “ขอลด” แต่จะเปิดใจถ้าคุณเสนอ “ดีลที่ทำให้เขาจบเร็วและชัดเจน”
Step 1: ทำ “CMA ฉบับคนซื้อ” ใน 30 นาที
CMA (Comparative Market Analysis) คือการเทียบกับบ้าน/คอนโด “ใกล้เคียง” เพื่อประมาณราคาตลาดจริง
วิธีหา Comparable ที่ใช้ได้จริง
เลือกทรัพย์เทียบอย่างน้อย 3–5 รายการ โดยให้ใกล้เคียงที่สุด:
ทำเลเดียวกัน (โซน/หมู่บ้านเดียวกัน หรือรัศมีใกล้เคียง)
ประเภทเดียวกัน (บ้านเดี่ยว/ทาวน์โฮม/คอนโด)
ขนาดใกล้เคียง (ตร.ม./ตร.ว.)
สภาพใกล้เคียง (รีโนเวทแล้ว/เดิมๆ)
ช่วงเวลาประกาศใกล้เคียง (ไม่ใช่ข้อมูลเก่าเป็นปี)
สูตร “ราคาเทียบเร็ว” (ใช้คุยต่อรอง)
บ้าน: เทียบ ราคาต่อ ตร.ว. + ปรับด้วยสภาพ/ตำแหน่ง/หน้ากว้าง
คอนโด: เทียบ ราคาต่อ ตร.ม. + ปรับด้วยชั้น/ทิศ/วิว/สภาพห้อง
เป้าหมายไม่ใช่ทำให้เป๊ะ 100% แต่ทำให้ “มีกรอบราคา” ที่พูดได้อย่างมั่นใจ
Step 2: ใช้ “ข้อมูลสภาพทรัพย์” เป็นเหตุผลลดราคา
ผู้ขายลดราคาได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณชี้เป็น “รายการซ่อมชัดเจน” มากกว่า “รู้สึกว่าแพง”
เช็กลิสต์หัวข้อที่ใช้ต่อรองได้บ่อย
รอยร้าว/รั่วซึม/เชื้อรา
หลังคา/ฝ้า/น้ำหยด
ระบบไฟ (ปลั๊ก, ตู้เมน, สายเก่า)
ระบบน้ำ (แรงดัน, ท่อรั่ว, ปั๊ม)
ประตู-หน้าต่าง (ปิดไม่สนิท, ยางเสื่อม)
ครัว/ห้องน้ำ (ซึม, กลิ่นท่อ, สุขภัณฑ์เก่า)
งานสี/พื้น/บวม/โก่ง
ทริค: ถ้าคุณมี “ใบประเมินค่าซ่อมคร่าว ๆ” หรือรายการจากช่าง/ผู้ตรวจบ้าน จะเพิ่มพลังต่อรองขึ้นมาก
Step 3: คำนวณ “ต้นทุนวันโอน” ให้เป็นตัวเลข (แล้วเอามาต่อรอง)
คนซื้อจำนวนมากต่อรองไม่สำเร็จ เพราะพูดเป็นความรู้สึก แต่ถ้าคุณพูดเป็น “ตัวเลขที่ต้องจ่ายจริง” ผู้ขายจะฟังง่ายขึ้น
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ทำให้ราคาสุทธิของผู้ซื้อสูงขึ้น:
ค่าธรรมเนียมโอน/ภาษี/อากร (แล้วแต่ตกลงว่าใครจ่าย)
ค่าส่วนกลางค้าง/ค่านิติ (คอนโด/หมู่บ้าน)
ค่าซ่อม-ปรับปรุงก่อนย้ายเข้า
ค่าเฟอร์/เครื่องใช้ที่ต้องซื้อเพิ่ม
มุมต่อรองที่ใช้ได้ผล:
“ถ้าผมต้องรับภาระค่า X / ซ่อม Y ขอปรับราคาลงเท่ากับต้นทุนจริงส่วนนี้”
Step 4: เลือก “จังหวะ” ต่อรองให้ถูก
จังหวะดี = โอกาสได้ราคาดี
จังหวะที่ต่อรองง่ายขึ้น
ทรัพย์ลงประกาศนาน (ผู้ขายเริ่มอยากจบ)
ผู้ขายต้องย้าย/ต้องใช้เงิน/มีเส้นตาย
ทรัพย์มีจุดด้อยชัด (ติดถนนเสียงดัง, ห้องทิศร้อน, ต้องซ่อม)
ตลาดเงียบ/มีคู่แข่งเยอะในทำเลเดียวกัน
จังหวะที่ต่อรองยาก
ทรัพย์ดีมาก มีคนสนใจเยอะ
ราคาเปิด “ต่ำกว่าตลาด” อยู่แล้ว
ผู้ขายไม่รีบ/ไม่เดือดร้อน
Step 5: วิธีเสนอราคาแบบ “ได้ผล” (ไม่เสียมารยาท)
แทนที่จะพูด “ลดได้ไหม” ให้ใช้โครงนี้:
โครงข้อความเสนอราคา (Copy/Paste ได้)
(1) ชม + ยืนยันความพร้อม
“ชอบบ้านมากครับ ทำเลเหมาะและพร้อมวางมัดจำ/ดำเนินการทันที”
(2) อ้างอิงข้อมูลตลาด
“ผมเทียบทรัพย์ใกล้เคียงขนาดและทำเลคล้ายกัน ราคาอยู่ประมาณ….”
(3) ชี้รายการซ่อม/ต้นทุนจริง
“มีรายการที่ต้องทำเพิ่ม เช่น… งบประมาณประมาณ….”
(4) เสนอราคา + เงื่อนไขที่ช่วยผู้ขาย
“ผมขอเสนอที่ … บาท โดยยืนยันว่าโอนภายใน … วัน และชำระมัดจำทันที”
“ต่อรองแบบมีข้อมูล” 5 เทคนิคที่ใช้ได้จริง
1) ต่อรองด้วย “กรอบราคา” ไม่ใช่ตัวเลขลอย ๆ
อย่ายื่นตัวเลขแบบเดา ให้ยื่นด้วยเหตุผลจาก Comparable + สภาพทรัพย์
2) แยก “ส่วนลดราคา” vs “ผู้ขายซ่อมให้” vs “แถมของ”
ถ้าผู้ขายไม่ลดราคา อาจยอม:
ซ่อมจุดสำคัญให้ก่อนโอน
แถมเฟอร์/แอร์/ผ้าม่าน
ออกค่าโอนบางส่วน
3) ยื่นข้อเสนอที่ “ทำให้จบเร็ว”
ผู้ขายจำนวนมากยอมลดเพื่อแลกกับความแน่นอน เช่น
พร้อมวางมัดจำวันนี้
พร้อมโอนใน X วัน
เอกสารกู้พร้อม / กู้ผ่านแล้ว (ถ้ามี)
4) ให้ “ทางลง” กับผู้ขาย
อย่าต่อรองแบบทำให้ผู้ขายรู้สึกเสียหน้า
ใช้คำว่า “ตามข้อมูล” “ตามต้นทุนจริง” แทน “แพงไป”
5) มีแผนสำรอง (BATNA)
รู้เพดานราคาตัวเอง และรู้ว่าถ้าไม่ผ่านจะไปดูหลังไหนต่อ
คนที่มีทางเลือก มักต่อรองได้ดีที่สุด
ตัวอย่างสถานการณ์ต่อรอง (สั้น ๆ)
เคส A: บ้านราคา 3.50 ล้าน ต้องซ่อม 150,000
Comparable เฉลี่ย 3.35–3.45 ล้าน
คุณเสนอ 3.30–3.35 ล้าน โดยแนบรายการซ่อม + พร้อมโอนเร็ว
ถ้าไม่ลด: ขอให้ผู้ขายซ่อมจุดใหญ่ หรือแบ่งค่าโอน
เคส B: คอนโดมือสอง 2.10 ล้าน ค่าส่วนกลางค้าง + ห้องต้องทำสี
ขอให้เคลียร์ค่าส่วนกลางค้างก่อนโอน
ต่อรองลดเท่าค่าทำสี/ซ่อม หรือให้แถมเฟอร์
FAQ
ต่อรองกี่เปอร์เซ็นต์ถึงเรียกปกติ?
ไม่มีตัวเลขตายตัว ขึ้นกับทำเล สภาพทรัพย์ และความเร่งของผู้ขาย ให้ยึด “ข้อมูล Comparable + ต้นทุนจริง” เป็นหลัก ไม่ยึดเปอร์เซ็นต์ล้วน
ควรต่อรองรอบแรกแรง ๆ ไหม?
ถ้าแรงเกินข้อมูล ผู้ขายอาจไม่คุยต่อ ให้เริ่มจากราคาที่ “คุณอธิบายได้” แล้วค่อยขยับด้วยเงื่อนไข (โอนเร็ว/มัดจำทันที)
ต่อรองกับโครงการมือหนึ่งทำได้ไหม?
ทำได้ในรูปแบบ “โปร/ของแถม/ส่วนลดวันโอน/ฟรีค่าใช้จ่ายบางรายการ” มากกว่าลดหน้าราคา (ขึ้นกับช่วงแคมเปญ)
สรุป
ต่อรองราคาบ้านให้ได้จริง = ข้อมูลตลาด + รายการซ่อม + แผนค่าใช้จ่าย + ข้อเสนอที่ทำให้ผู้ขายจบเร็ว
ถ้าคุณทำ 5 Step ในบทความนี้ คุณจะต่อรองแบบมืออาชีพขึ้นทันที และได้ราคาที่ “สมเหตุสมผล” มากกว่าเดิม

